วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องย่อการ์ตูน

โนบิตะเป็นเด็กนักเรียนขี้แย เรียนไม่เก่ง ชอบโดนเพื่อนแกล้งโดยเฉพาะ ไจแอ้นท์และซูเนโอะ เขามีเพื่อนหญิงที่คอยปลอบใจคือ ชิสุกะ
ในวันหนึ่งโนบิตะพบว่ามีหุ่นยนต์แมวสีฟ้าโผล่มาในลิ้นชักของเขา และแนะนำตัวว่าชื่อ โดราเอม่อน โดยที่เป็นหุ่นยนต์มาจากอนาคตโดยทายาทในอนาคตของโนบิตะ (ส่งมาให้ช่วยบรรพบุรุษตัวเองซะงั้น)

โดราเอม่อน มีกระเป๋าหน้าท้องวิเศษที่สามารถหยิบของวิเศษต่างๆออกมา ที่ใช้บ่อยที่สุด คอปเตอร์ไม้ไผ่ทำให้บินได้ ประตูมิติที่เปิดแล้วจะไปที่ไหนก็ได้ตามใจนึกคิด วุ้นแปลภาษาของสัตว์หรือคนต่างชาติให้กลายเป็นภาษาญี่ปุ่นที่เข้าใจได้ง่าย และลิ้นชักของโนบิตะเองนั้น จริงๆแล้วคือ ไทม์ แมชชีน




สิ่งที่โด่งดังเกี่ยวกับโดราเอมอนก็คือ เพลง (อั๊ง อัง อัง ...) ที่เด็กๆ(สมัยนั้น)ร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง

เนื้อเพลงภาษาญี่ปุ่น
คอนนะโคะโตะอิอินะ เดะคิตะระอิอินะ อันนะยูเมะคอนนะยูเมะ อิพพะอิอะรูเคะโด มินนะมินนะมินอินะ คะนะเอะเตะคุเระรุ ฟูชิงินะพกเก็ตโตะดะ
คะนะอิเตะคูเระรู โซราจิยูนิ โทบิตะอินะ ฮาอิ ทาเคะคอปต้า อัง อัง อัง ตดเตะโมะดาอิซุคิ โดราเอ..มอนน...

เนื้อเพลงแปลเป็นภาษาไทย
เรื่องอย่างนี้ดีจังเลย ถ้าทำได้ละก็ยอดไปเลยนะ ความฝันเหล่านี้ เหล่านั้น มีตั้งเยอะตั้งแยะแน่ะ ทุกคนก็เป็นคนดี มาเติมฝันเหล่านั้นให้เต็ม
ด้วยกระเป๋าวิเศษนี้ มาช่วยเติมฝัน อยากบินได้อย่างอิสระบนท้องฟ้าจังเลยนะ ไฮ้ ( นี่ไง ( เสียงของโดเรม่อน ) ) คอปเตอร์ไม้ไผ่ อัง อัง อัง ชอบมากๆ เลยล่ะ โดราเอม่อน....

มารู้จักผู้แต่งโดราเอม่อนกันดีกว่าครับ

ชื่อ : อ.ฟุจิโมโตะ ฮิโรชิ
เกิด : 1 ธันวาคม 1933
ที่เกิด : เมืองทากาโอกะ จังหวัดโทยามะ
ประวัติ : ชีวิตการเป็นนักเขียนการ์ตูนของท่าน เริ่มต้นเมื่อปี 1944 อาบิโกะ โมโตโอะ เด็กวัยรุ่นๆ เดียวกับท่าน ย้ายมาอยู่ที่เมือง ทากาโอกะ ทั้งคู่ได้รู้จักกันจากการเรียนชั้นเดียวกันตอนเรียนป5 ในปี 1946 ทั้งคู่ได้เลือกเรียนในโรงเรียนช่าง เทคนิคด้วยกัน ทั้งคู่เรียนสาขาไฟฟ้าเหมือนกัน และร่วมกันทำโปรเจคท์ สร้างเครื่องฉายภาพขึ้นมา และเอาการ์ตูนต่างๆ มาฉายโชว์ไป เป็นที่ฮือฮาของเด็กในละแวกนั้น

ในปี 1947 ทั้งคู่ได้อ่านการ์ตูนเรื่อง 'ชินทาการะจิมะ' (เกาะมหาสมบัติใหม่) ของ อ.โอซามุ เทะซึกะ นั่นเป็นการ์ตูนที่ทำให้ทั้งคู่เกิดแรงบันดาลใจอยากเป็นนักเขียนการ์ตูน ทั้งคู่เริ่มเขียนการ์ตูนออกมา และพิมพ์จำหน่ายในละแวกบ้านเกิด ทั้งคู่เริ่มเขียนการ์ตูนมาเรื่อย เริ่มสะสมชื่อเสียงมาทีละน้อย เมื่อเริ่มมีคนรู้จัก ทั้งคู่ก็ย้ายออกจากโทยามะ มาอยู่ ในเมืองใหญ่อย่างเกียวโต

ปี 1963 ทั้งคู่ได้ร่วมกับนักเขียนไ ฟแรงอีกหลายคนในยุคนั้น อาทิ อิชิโนโมริ โชทาโร่, สึโนดะ ชิโร่ ฯลฯ ร่วมกันสร้าง
'STUDIO ZERO' ซึ่งเป็นสตูดิโอที่รับทำงานด้านอะนิเมขึ้นมา แต่ทั้งอ.ฟุจิโมโตะกับ อ.อาบิโกะ ก็ยังคงมีงานหนังสือการ์ตูน
ออกมาเรื่อยๆ ในหลายๆนามปากกา อาทิ อาชิสึกะ ฟุจิโอะ ในปี 1953 และชื่อ ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ นั้นเริ่มใช้ในปี 1954 โดยแบ่งเป็น FUJIKO-F. FUJIO หมายถึง อ.ฟุจิโมโตะ ฮิโรช ิ และ FUJIKO-FUJIO A หมายถึง อ.อาบิโกะ โมโตโอะ

ในปี 1970 ทั้งคู่ก้ร่วมกันสร้างงานประวัติศาสตร์ 'โดราเอมอน' ขึ้นมา ยุครุ่งเรืองก็ดำเนินเรื่อยมา

ในปี 1988 ทั้งคู่ก็ยุติการใช้ชื่อ ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ และ อ.ฟุจิโมโตะ ก็ยุติบทบาทการเป็นนักเขียนการ์ตูนนับแต่ นั้นมา อ.ฟุจิโมโตะ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 23 กันยายน 1966

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แนะนำตัวละครหลัก

โดราเอม่อน



โดราเอม่อนเป็นหุ่นยนต์แมวที่ถูกส่งมาจากโลกอนาคตโดยเซวาชิเหลนของโนบิตะ ถูกส่งมาเพื่อคอยช่วยเหลือโนบิตะ ของโปรดของ โดราเอม่อนคือ ขนมแป้งทอดหรือ Doriyaki อย่างที่แนะนำกันไปแล้วตอนแรกนะครับ ขออนุญาตพูดถึงแค่นี้แล้วกันนะครับ


โนบิ โนบิตะ




โนบิตะ ถือเป็นตัวดำเนินเรื่องเลยครับ โนบิตะเป็นเด็กที่ไม่มีความรับผิดชอบ มักจะสอบได้ 0 คะแนนเสมอซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้โนบิตะไม่สามารถที่จะไปจีบชิซูกะได้ แต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างได้เปลี่ยนไปเมื่อโดราเอม่อนมาอยู่กับโนบิตะ ในที่สุดโนบิตะก็ได้แต่งงานกับชิซูกะในที่สุดครับ ส่วนชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ของโนบิตะ มักจะตื่นไปโรงเรียนสาย จะถูกครูดุบ่อยๆ แล้วก็ถูกแม่ดุ ถูกไจแอ้นท์แกล้ง ชอบนอนกลางวัน และมักจะทำให้ชิซูกะโกรธบ่อยๆ


ชิชูกะ




ถือได้ว่าเป็นนางเอกของเรื่องเลยหล่ะครับ มีหนุ่มๆ มาชอบมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็น โนบิตะ ไจแอ้นท์ หรือแม้กระทั่งซูเนโอะ แต่อย่างไรก็ตาม ในที่สุดชิซูกะก็ได้แต่งงานกับโนบิตะอยู่ดีครับ ชิซูกะรักการอาบน้ำเป็นชีวิตจิตใจครับ ชิซูกะเป็นเด็กผู้หญิงใจดี และมักจะให้อภัยผู้อื่นเสมอ ไม่ถือโทษโกรธใคร ชิซูกะเป็นเด็กที่ขยัน และจะทำคะแนนสอบได้ดีเสมอผิดกับโนบิตะโดยสิ้นเชิงครับ


ไจแอ้นท์




โกดะ ทาเคชิ หรือ ไจแอ้นท์ ถือเป็นอัธพาลประจำกลุ่มเลยครับ เป็นเด็กผู้ชายที่บึกบึน และแข็งแรง แต่ร้องเพลงได้แย่ที่สุด ไจแอ้นท์มักจะรวมหัวกับซูเนโอะเพื่อแกล้งโนบิตะ ไจแอ้นท์มักจะอิจฉาซูเนโอะ และ โนบิตะ ที่มักจะมีของเล่นใหม่ๆและ ของเล่นแปลกๆเสมอ ดังนั้นไจแอ้นท์ก็จะแย่งสิ่งของเหล่านั้นจากโนบิตะและซูเนโอะบ่อยๆ นอกจากนี้ไจแอ้นท์ก็ยังชอบอ่านการ์ตูน และไจแอ้นท์มักจะทำคะแนนสอบได้ค่อนข้างแย่อีกด้วย (แต่ก็ยังไม่แย่เท่าโนบิตะนะครับ)


ซึเนโอะ




โฮเนะคาวะ ซึเนโอะ เป็นเด็กที่ชอบโกหกและขี้โกง แต่ก็ฉลาด เพราะฐานะทางบ้านที่ร่ำรวย ซูเนโอะจึงถูกตามใจตั้งแต่เด็ก และไม่ค่อยถูกลงโทษ ซึเนโอะอยากให้โดราเอม่อนมาอยู่ด้วย เพราะต้องการของวิเศษจากกระเป๋าวิเศษของโดราเอม่อน ซึเนโอะมักจะแกล้ง และนำปัญหามาให้โนบิตะเสมอ ถึงแม้ว่าซึเนโอะจะเป็นเด็กขี้โม้ และหัวสูง แต่ก็ยังมีนิสัยใจดีอยู่บ้างเหมือนกันครับ

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แนะนำตัวละครรอง

วันนี้เรามาทำความรู้จักกับตัวละครรองๆ ในเรื่องโดราเอม่อนกันครับ เริ่มจาก...

โดเรมี่


หุ่นยนต์น้องสาวของโดราเอม่อน สภาพดีกว่าและอะไหล่ทันสมัยกว่าโดราเอม่อนทุกอย่าง ต่างไปจากโดราเอมอนในทุก ๆ ด้าน มักจะมาช่วยโดราเอม่อน และเพื่อนๆในยามคับขัน

แม่โนบิตะ (โนบิ ทามาโกะ)


แม่ของโนบิตะ เป็นแม่บ้านที่ใจดีแต่จะจู้จี้กับเรื่องของโนบิตะ ชื่อเดิมคือ คาตาโอกะ ทามาโกะ


พ่อโนบิตะ (โนบิ โนบิสุเกะ)



พ่อของโนบิตะ ปกติจะใจดีกับโนบิตะเสมอ แต่ก็เข้มงวดเป็นบางครั้ง เป็นคนที่อารมณ์ดี เก่งในด้านวาดภาพชอบสูบบุหรี่ และโดนแม่ของโนบิตะว่าบ่อยๆถึงเรื่อง ให้เลิกบุหรี่

แม่ชิชูกะ



เป็นคนใจดีน่ารักเหมือนชิซูกะ


แม่ของซึเนโอะ



เป็นคนที่ตามใจซึเนโอะมากๆ แต่บางครั้งเมื่อซึเนโอะทำผิดมา ก็จะตีบ้างในบางครั้ง เป็นแม่บ้าน ชอบตีกอล์ฟที่สนามหน้าบ้าน


แม่ของไจแอ้นท์




ชอบดุไจแอ้นท์และตีไจแอ้นท์ มีอาชีพขายของร้านชำ ซึ่งเป็นร้านของตัวเอง บางครั้งชอบใช้ให้ไจแอ้นท์เฝ้าร้านแทนแต่ไจแอ้นท์ชอบหนีไปเล่นกับเพื่อนๆ


ไจโกะ



น้องสาวของไจแอนท์ ชอบวาดการ์ตูน มีความฝันว่าโตขึ้นจะเป็นนักเขียนการ์ตูน เป็นน้องที่ไจแอ้นท์รักมากที่สุด ถ้าใครแกล้ง หรือ ใครทำให้ไจโกะเสียใจ ไจแอ้นท์ ต้องรีบไปจัดการคนคนนั้นทันที

คุณครู



เมื่อโนบิตะไปโรงเรียนมักจะไม่ทำการบ้านไป จึงถูกคุณครูทำโทษอยู่เสมอๆ โดยการออกให้ออกไปยืนหน้าห้องหรือถ้าเวลาที่เรียนอยู่แล้วโนบิตะแอบหลับ ก็มักจะถูกทำโทษด้วยเหมือนกัน


เซวาชิ



เหลนของโนบิตะในอนาคต ซึ่งเป็นผู้ส่งโดราเอมอนมาช่วยเหลือโนบิตะ

ลุงคามินาริ


ลุงหัวเก่าแสนดุ บ้านอยู่ติดลานว่าง ซึ่งพวกโนบิตะชอบไปเล่นเบสบอล และวิ่งเล่นอยู่เป็นประจำ และทำลูกบอลเข้าไปพังหน้าต่างหรือ บอนไซ เป็นประจำ จนคุณลุงคามินาริ สามารถเก็บลูกบอลของพวกโนบิตะได้เป็นกล่องเลยทีเดียว ถึงแม้อาจจะดูเป็นคนที่ดุแต่ความจริงเป็นคนที่ใจดีเหมือนกัน



ปล.ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ไว้ผมจะมาอัพให้ดูอีกนะครับ ตอนนี้ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ ง่วงมากแล้ว

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ของวิเศษทั้งหมด

มาทวนของเก่ากันนะครับ ของวิเศษที่โดราเอม่อนใช้บ่อยๆนะครับ

คอปเตอร์ไม้ไผ่



เป็นของวิเศษอย่างหนึ่งของโดราเอม่อน ช่วยทำให้ผู้ใช้ลอยขึ้นไปในอากาศ ในลักษณะเดียวกับเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางได้มาก คอปเตอร์ไม้ไผ่ เป็นของวิเศษที่ปรากฏบ่อยครั้งมากในดังที่แนะนำไปแล้วในตอนแรกนะครับ


ประตูสารพัดสถานที่



เป็นประตูที่สามารถเปิดผ่านไปที่ไหนก็ได้ ทุกที่ที่ต้องการเลยครับดังที่แนะนำในตอนแรก สะดวกสบายมาก


เครื่องทาม์แม็คชีน



เครื่องทาม์แม็คชีนเป็นพาหนะที่สามารถใช้เดินทางย้อนเวลาไปอดีต หรือ เดินทางข้ามเวลาไปสู่อนาคตได้ตามที่เราต้องการครับ

ไฟฉายย่อขยายส่วน


เมื่อฉายไฟฉายนี้ไปที่สิ่งใดๆก็ตาม สิ่งนั้นๆ จะขยายใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงตามที่เราต้องการครับ


ส่วนอันนี้ของวิเศษที่มีอยู่ในเรื่องนะครับ นำมาเพิ่มเติมครับผม


ถุงมือวิเศษ


ไม่ว่าสิ่งของจะหนักและชิ้นใหญ่สักแค่ไหนก็สามารถใช้ถุงมือวิเศษยกของสิ่งนั้นได้หมดทุกอย่างเลยครับ


ผ้าคลุมกาลเวลา


เอาไว้ใช้สำหรับคลุม สิ่งมีชีวิต หรือสิ่งของบางอย่างเพื่อย้อนหรือ หรือเร่งเวลาสิ่งนั้นให้เปลี่ยนสภาพไปตามกาลเวลาที่ต้องการ

เครื่องทำความดี



เอาไว้สวมที่หัว เป็นอุปกรณ์ที่เมื่อใครสวมมันจะสั่งงานให้ทำแต่ความดีครับ

นาฬิกาหยุดเวลา




เป็นนาฬิกาที่สามารถหยุดเวลาบนโลกได้ โดยที่ผู้อื่นไม่ทันรู้ตัวเลย ยกเว้นคนที่ถือมันอยู่เท่านั้น ซึ่งโนบิตะมักจะนำไปแกล้งเพื่อนๆอยู่เสมอๆ เลยครับ

ประตูไปห้องใต้ภิภพ



เป็นประตูทางเข้า ที่สามารถลงไปใต้ภิภพได้ เพราะโนบิตะต้องการห้องที่เป็นส่วนตัว โดราเอม่อนจึงนำประตูนี้ออกมาให้โนบิตะใช้ และโนบิตะก็ได้ค้นพบเมืองใต้ภิภพและไดโนเสาร์ที่คล้ายคน คือไดโนเสาร์สามารถพูดได้นั่นเอง

วาร์ฟเปลี่ยนทิศ



เป็นยานพาหนะที่ไม่ได้มีไว้ขับ แต่สามารถวาร์ฟไปยังที่ๆเราต้องการได้ ขอแค่ในทุกที่ๆนั้นมีน้ำอยู่ก็พอ ไม่ว่าจะในแม่น้ำ อ่างน้ำ กระติกน้ำ หรือแก้วน้ำก็ทำได้หมดเลย

ตามหาของที่หาย



มีลักษณะคล้ายบ่อตกปลา แต่ที่จริงแล้วเอาไว้ตกของที่หายไปครับ เวลาใช้ก็หย่อนเบ็ดตกปลาลงไปพร้อมกับเลือกสถานที่ๆเราจะหาของนั้น ซึ่งโนบิตะชอบใช้เวลาที่จะเอาของเล่นคืนจากไจแอ้นท์นั่นเอง

ปืนสลับตำแหน่ง


ปืนสลับตำแหน่ง เมื่อยิงออกไปแล้ว จะทำให้ตำแหน่งของผู้ยิงสลับกับผู้ที่ถูกยิง ยกตัวอย่างเช่น ไจแอ้นท์กำลังยืนหัวเราะเยาะโนบิตะที่โดนผลักตกน้ำ พอโนบิตะยิงปืนใส่ไจแอ้นท์ ตำแหน่งของทั้งคู่ก็จะสลับสับเปลี่ยนกัน กลายเป็น
ไจแอ้นท์ตกไปอยู่ในน้ำแทนครับ

ห่วงผ่านตลอด



เมื่อนำห่วงนี้ไปติดกับกำแพง จะทำให้สามารถผ่านไปได้ คล้ายๆกับประตูข้ามมิติ และเพื่อนๆมักจะใช้ในยามฉุกเฉิน คือเมื่อต้องผจญกับผู้ร้าย และไม่มีทางหนีก็จะนำมาใช้ครับ


กล้องกาลเวลา



กล้องกาลเวลา เป็นกล้องถ่ายภาพที่สามารถถ่ายย้อนกลับไปในอดีตได้ เพียงแค่หมุนปุ่มเพื่อเลือกเวลาที่ต้องการ จากนั้นก็ถ่ายไปยังสถานที่ ที่ต้องการภาพในช่วงเวลาที่เลือกไว้ ภาพก็จะออกมาเหมือนกับกล้องโพลารอยด์

อุโมงค์กัลลิเวอร์



อุโมงค์กัลลิเวอร์ เป็นอุโมงค์ที่ใช้ย่อขนาดตัวให้เล็กลง หากต้องการให้ขนากลับมาเท่าดิม ก็ให้เดินกลับอีกด้านเท่านั้นก็จะขนาดเท่าเดิมแล้วครับ

ขนมแห่งความโชคดี



ขนมพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวนี้ เมื่อใครก็ตามได้รับประทานเข้าไปแล้ว มักจะทำให้โชคดี ถึงแม้คนๆนั้นจะไม่เคยโชคดีเลยก็ตาม เช่นโนบิตะ ซึ่งเป็นคนที่ซุ่มซ่ามโชคร้ายตลอด แต่เมื่อกินขนมนี้ก็จะมีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้น แต่ข้อเสียของขนมนี้ก็คือใช้เวลาได้อย่างจำกัดเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง

รถบักกี้



รถบักกี้ เป็นรถที่สามารถพูดได้ถึงขั้นพูดมากเลยละครับ สามารถขับเคลื่อนเองไดโดยไม่ต้องมีคนบังคับ สามารถวิ่งได้ทั้งบนบกและในน้ำครับ

กล่องยาวินิจฉัยโรค



กล่องยาวินิจฉัยโรคนี้ทำหน้าที่เหมือนเป็นหมอ สมารถพูดได้ และวิเคราะห์โรคที่เราเป็นได้โดยแม่นยำ และสามารถจ่ายยาให้เราทานได้อีกด้วยครับ

อุปกรณ์ศึกษาผีเสื้อ



เป็นสิ่งที่มีไว้เพื่อศึกษาการเจริญเติบโตของผีเสื้อ โดยเฉพาะให้มีการสังเกตุ ดูการเปลี่ยนแปลงจากตัวอ่อนกลายมาเป็นผีเสื้อที่สวยสดงดงามนั่นเองครับ


หมดแล้วครับของวิเศษในการ์ตูนเรื่องโดราเอม่อน หากขาดตกบกพร่องของชิ้นไหนก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ตอนจบ...ของโดราเอม่อน

ตอนจบของโดราเอม่อนครับผม มี 2 แบบด้วยกันนะครับ

แบบที่หนึ่ง...จบแบบเศร้าใจหน่อยนะครับ Sad Ending!! เป็นตอนจบของผู้แต่งที่คิดไว้ตั้งแต่แรกเลย

เรื่องมีอยู่ว่า...

วันหนึ่ง...ในโรงพยาบาล โนบิตะตื่นขึ้นมา ก็ได้พบกับพ่อ-แม่และเพื่อนๆทุกคนยืนอยู่รอบเตียงของเขา โนบิตะจึงถามถึงโดราเอม่อน แต่ทุกคนกลับปฎิเสธว่าไม่รู้จัก และบอกกับโนบิตะว่า "โนบิตะหลับมานานเป็นปีแล้ว เพราะโนบิตะไม่สบาย" โนบิตะจึงนึกย้อนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับโดราเอม่อน ทั้งการผจญภัยต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเพียงความฝันเท่านั้น

ไม่ว่าจะเป็น โดราเอม่อน หรือ เซวาสึ โดเรมี ล้วนแต่เป็นความฝันของเขาทั้งสิ้น โนบิตะเป็นเด็กที่ไม่ค่อยแข็งแรง และไม่มีเพื่อนรักที่จะคอยอยู่ด้วย เขาต้องนอนโรงพยาบาลตลอดเวลา และเขาก็หลับไปจึงทำให้เขาฝันไปตามจินตนาการของเขานั่นเอง

ที่โนบิตะฝันถึงโดราเอม่อนและอนาคตนั้น เป็นเพราะโนบิตะรู้ดีว่าโนบิตะกำลังจะตายในอีกไม่ช้า เขาจึงอยากที่จะมีอนาคตเหมือนเด็กคนอื่นๆ อยากมีเพื่อนรัก อยากจะได้ไปผจญภัยในโลกที่สนุกสนาน แต่ฝันของเขาก็ไม่มีวันเป็นจริง ตลอดไป... เพราะต่อมาอีกไม่นาน โนบิตะก็จากไปก่อนวัยอันควร พ่อแม่ และเพื่อนๆของโนบิตะร้องไห้กันอยู่ในงานศพของโนบิตะ และเรื่องราวทุกอย่างก็จบลง


เศร้าใช่ไหมล่ะครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับนี่เป็นเพียงเรื่องที่แต่งในตอนแรกครับ ยังไม่ตกลงว่าจะออกพิมพ์หรือทำเป็นภาพยนตร์การ์ตูนแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้จบแบบนี้หรอกครับ เพราะฉะนั้นเรามาเอาใจช่วยโดราเอม่อนและโนบิตะกันต่อไปนะครับ





แบบที่สอง...จบแบบมีความสุข Happy Ending!! เป็นตอนจบแบบซึ้งๆ มีความสุขครับ

เรื่องมีอยู่ว่า...

บ่ายวันหนึ่ง ซึ่งก็เป็นวันธรรมดาเหมือนวันอื่นทั่วไป โนบิตะกลับมาจากโรงเรียน และวิ่งขึ้นชั้น 2 ไปที่ห้องของเขา โดราเอม่อนกำลังนอนอยู่ในห้อง ...ซึ่งก็เป็นเหมือนปกติทุกๆ วัน "เฮ้!! โดราเอม่อนตื่นเถอะแล้วไปเล่นด้วยกัน" โนบิตะชวน แต่โดราเอม่อนก็ยังไม่ตื่น โนบิตะคิดว่าโดราเอม่อนคงจะเหนื่อยปล่อยให้นอนต่อไปดีกว่า ดังนั้นเขาจึงวิ่งออกไปเล่นข้างนอนกับชิซูกะและเพื่อนคนอื่นๆ

เวลาผ่านไป 2-3 ชั่วโมง โนบิตะก็กลับถึงบ้าน เขาพบว่าโดราเอม่อนยังนอนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่มีทีท่าว่าโดราเอม่อนจะตื่น โนบิตะเริ่มรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่แปลกไป จึงบ่อนพึมพำว่า "ปกติโดราเอม่อนไม่นอนนานอย่างนี้นี่นา"
โนบิตะจึงพยายามจะปลุกโดราเอม่อน แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ จากโดราเอม่อนเลย โนบิตะเริ่มรู้สึกกลัวจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะปลุกโดราเอม่อน แต่ไม่ว่าโนบิตะจะพยายามแค่ไหน เขาก็ไม่สารถที่จะปลุกโดราเอม่อนให้ตื่นขึ้นมาไม่ได้

ถึงตอนนี้โนบิตะเริ่มแน่ใจแล้วว่า มีบางอย่างผิดปกติในตัวโดราเอม่อน เพราะโดราเอม่อนไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน โนบิตะเริ่มร้องไห้ไป พร้อมทั้งเรียกโดราเอม่อนไป แต่แม้จะร้องไห้หรือตะโกนเรียกอย่างไร เจ้าหุ่นยนต์แมวตัวอ้วนก็ยังคงไม่เคลื่อนไหว

และแล้วโนบิตะก็นึกอะไรออกขึ้นมา แล้วโนบิตะก็เดินตรงไปที่ลิ้นชัก เขากระโดดลงไปในลิ้นชักโต๊ะ ใช่แล้ว...ไทม์แมชชีนนั่นเอง โนบิตะใช้ไทม์แมชชีนไปในอนาคต เพื่อที่จะไปหาโดเรมีน้องสาวของโดราเอม่อนนั่นเอง โนบิตะไปขอความช่วยเหลือจากโดเรมี และพาโดเรมีกลับมากับโนบิตะด้วย กลับมาในปี 1998 นั่นเอง

หลังจากนั่งไทม์แมชชีนกลับมาในปี 1998 โดเรมีก็เริ่มตรวจระบบต่างๆ ของโดราเอม่อน เพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับพี่ชายของเธอ หลังจากที่โดเรมีตรวจดูอยู่ไม่นาน โดเรมีก็บอกกับโนบิตะว่า "แบตเตอรี่ของพี่ชายหมดค่ะ"

โนบิตะได้ยินดังนั้นก็โล่งใจ และบอกกับโดเรมีว่า "ที่แท้ก็แบตเตอรี่หมดเองหรอ โดราเอม่อนไม่ได้เสียหายอย่างอื่นใช่ไหมโดเรมี งั้นจะรออะไรอยู่ล่ะ รีบเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ให้โดราเอม่อน และทำให้โดราเอม่อนตื่นกลับมาเหมือนเดิมทีสิ" โนบิตะพูด

แต่โดเรมีกลับส่ายหน้า และพูดขึ้นว่า "โนบิตะซัง ฉันควรทำอย่างนั้นหรอ"

โนบิตะได้ฟังและเห็นสีหน้าของโดเรมีก็ตกใจจึงพูดขึ้นว่า "อะ... อะไรนะ โดเรมี เธอหมายความว่ายังไง"

โดเรมีจึงตอบว่าตอบว่า "ก็ แบตเตอรี่หลักของพี่ชายอยู่ตรงนี้ ใกล้กับกระเป๋าหน้าของเขา และไฟมันหมดแล้ว ซึ่งแต่เดิมพี่ชายจะมีแบตเตอรี่สำรองอยู่ที่หู แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กันล่ะว่าหูของพี่ชายถูกหนูแทะกินไปเมื่อหลายปีมาแล้ว ดังนั้นตอนนี้พี่ชายก็เลยไม่มีแบตเตอรี่สำรอง"

"แล้วมันหมายความว่ายังไ งล่ะ" โนบิตะสงสัย "ก็หมายความว่า ถ้าฉันเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้พี่ชาย ความทรงจำทุกอย่างของพี่ชายก็จะหายไปจากส่วนของหน่วยความจำนะสิ" โดเรมีเริ่มอธิบายให้โนบิตะฟัง "อะไรนะ" โนบิตะตกใจ "แล้วแล้วโนบิตะยังจะให้ฉันเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้อย่างนั้นหรอ" โดเรมีถาม

โนบิตะหลับตาแล้วร้องไห้...แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หยุดร้อง และบอกโดเรมีว่า "โดเรมี...ขอบคุณนะที่อุตส่าห์มา ฉันจะดูแลโดราเอม่อนเอง เธอกลับไปอนาคตเถอะ" โดเรมีไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพื่อช่วยโนบิตะดี เธอจึงเข้าไปกอดโนบิตะเพื่อปลอบใจ และก็ขอตัวกลับไปอนาคต หลังจากโดเรมีกลับไป โนบิตะก็อุ้มโดราเอม่อนไปนอนในตู้ของโดราเอม่อนตามเดิม

วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ โนบิตะเริ่มโตขึ้น ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาโนบิตะก็เปลี่ยนไป โนบิตะทุ่มเทเรียนอย่างหนักและไม่ร้องไห้อีกต่อไป โนบิตะมีชีวิตอยู่โดยที่ไม่มีโดราเอม่อน โนบิตะบอกชิซูกะและทุกๆ คนว่าโดราเอม่อนได้กลับไปโลกอนาคตแล้ว และจะไม่สามารถได้พบกับโดราเอม่อนได้อีกต่อไป

ชิซูกะรู้สึกประทับใจในท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างเหลือเชื่อของโนบิตะ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง ทั้งสองตกหลุมรักซึ่งกันและกัน และในที่สุดทั้งสองก็ได้แต่งงานกันใน...

โนบิตะเติบโตเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งมาก เขาได้สรรค์สร้างห้องของเขาให้กลายเป็นห้องทดลอง และทุ่มเทศึกษาอย่างหนักในงานของเขาตลอดทั้งวัน โนบิตะบอกกับชิซูกะว่าไม่ให้เข้ามาในห้องทดลองของเขา เพราะมีสิ่งที่เป็นอันตรายอยู่มากมาย...แต่แล้ววันหนึ่งเขากลับเรียกชิซูกะให้เข้าไปในห้องทดลองของเขา ห้องซึ่งเขาเคยบอกว่าเต็มไปด้วยอันตราย และนั่นเป็นครั้งแรกที่ชิซูกะได้เข้าไปในห้องของสามีเธอ

และเมื่อชิซูกะเข้าไปในห้องทดลอง ชิซูกะก็ต้องตกใจจนพูดไม่ออก เพราะสิ่งที่ชิซูกะเห็นคือเพื่อนเก่าของเธอ เพื่อนที่เธอเคยเล่นด้วยในวัยเด็กนั่นเอง "โดราเอม่อน" ชิซูกะเรียกด้วยความตกใจและดีใจ แต่โดราเอม่อนก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร ดูเหมือนว่าโดราเอม่อนกำลังหลับอยู่

"ดูนะชิซูกะ ผมจะเสียบปลั๊กเดี๋ยวนี้แหละ" โนบิตะพูดับภรรยา พร้อมทั้งเปิดสวิตช์หลักของโดราเอม่อน หลังจากนั้นโดราเอม่อนก็ลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ขณะที่โดราเอม่อนลืมตาขึ้นมานั้น โดราเอม่อนก็มองไปรอบๆ และในที่สุดโดราเอม่อนก็พูดอย่างเสียดังว่า "โนบิตะ นายทำการบ้านเสร็จรึยัง"

โนบิตะและชิซูกะ ร้องไห้เบาๆ ด้วยความยินดี เพราะที่โนบิตะเรียนอย่างหนัก และทุ่มเทสุดชีวิตก็เพื่อที่จะได้พบและได้พูดคุยกับเพื่อนเก่าของเขาอีกครั้งนั่นเอง จนถึงตอนนี้ โนบิตะก็ทำให้โดราเอม่อนฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ทำให้พวกเขาได้อยู่ร่วมกันอีกครั้งในวันที่ก้อนเมฆสีขาวก้อนเดิม ยังลอยอยู่บนท้องฟ้า ภาพวันเวลาแห่งความทรงจำในอดีตก็กลับมาอีกครั้ง...

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ของวิเศษของโดราเอม่อนที่ใช้บ่อยๆ

Takekoputa - คอปเตอร์ไม้ไผ่




คอปเตอร์ไม้ไผ่ ทำจากไม้ไผ่ ชื่อภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "Take (ไม้ไผ่) Koputa (คอปเตอร์) " เมื่อจะใช้ก็นำไปวางไว้บนหัวจะทำให้สามารถบินได้ เป็นเครื่องมือที่โนบิตะและโดราเอม่อนใช้เกือบทุกตอนเพราะใช้งานง่ายและไม่ค่อยมีอันตราย มีใบพัด2แฉก ทำให้บินไปบนท้องฟ้าได้อย่างอิสระ ด้วยความเร็ว 80 กม./ซม แต่จะได้เพียง 5ซม. เท่านั้น เอาไว้ใช้ไปทำงานหรือไปโรงเรียนจะดีมาก(จะได้ไม่ไปสาย)


Dokodemo-doa - ประตูสารพัดสถานที่






หากเปิดประตูนี้ออกแล้วพูดชื่อว่าจะไปที่ไหนประตูก็จะเปิดออกไปยังสถานที่นั่นทันที ประตูเป็นประตูไม้ในแบบโบราณ เป็นเครื่องมือที่สะดวกสบายที่สุด แน่นอนว่าแฟน ๆ โดราเอม่อนต่างใฝ่ฝันถึงเครื่องมือชิ้นนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นเครื่องมือที่สะดวกสบายที่สุด ของวิเศษชิ้นนี้ถูกใช้บ่อยๆ ทำให้เราได้เห็นสถานที่ต่างๆ ในการ์ตูนได้มากมายหลายที่ตามจินตนาการ



Taimu-mashin - เครื่องทาม์แม็คชีน




เครื่องทาม์แม็คชีนเป็นพาหนะที่สามารถใช้เดินทางย้อนเวลาไปอดีต หรือ เดินทางข้ามเวลาไปสู่อนาคตได้ โดยทางเข้าและทางออกจะอยู่ในลิ้นชักโต๊ะในห้องนอนของโนบิตะ โดราเอม่อนและเพื่อนๆ สามารถใช้เดินทางไปอนาคตได้ แต่ว่าเครื่องนี้ก็ไปส่งผิดที่ผิดเวลาบ่อย ๆ ทำให้เกิดเรื่องราวโกลาหลมากมายเลยทีเดียวครับ



Small Light - ไฟฉายย่อขยายส่วน







มีรูปร่าง และวิธีใช้คล้าย ๆ กับไฟฉายทั่ว ๆ ไป ใช้สำหรับย่อสิ่งของหรือขยายสิ่งของให้ใหญ่หรือเล็กก็ได้ มีประโยชน์มาก และโดราเอม่อนก็นำมาใช้บ่อยๆ อีกด้วย

ความเป็นมาของ...โดราเอม่อน

โดเรม่อน หรือโดราเอม่อน เกิดในยุคศตวรรษที่ 22 ที่โรงงานหุ่นยนต์ ในโลกอนาคต วันที่ 3 กันยายน ค.ศ.2112 มีน้ำหนัก 129.5 กก. ความสูง 129.3 ซม.กระโดดได้สูง 129.3 ซม. และวิ่งได้เร็วถึง 129.3 กม. / ชม.โดราเอม่อนมีกระดิ่งห้อยคอสีเหลือง มีหนวดหกเส้น ไม่มีนิ้วมือ ชอบทานโดรายากิเป็นชีวิตจิตใจ

มีลักษณะตัวอ้วนกลมสีเหลือง แต่แล้ววันหนึ่งโดราเอม่อนถูกหนูกัดหู จึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน แล้วก็ไม่มีหูอย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบันนี่แหละครับ โดราเอมอนก็เลยกลัวหนูตั้งแต่นั้นมาครับ...

ชื่อโดราเอม่อน มาจากคำว่า...โดราเนโกะ แปลว่า แมวหลงทาง ส่วนเอม่อนนั้นเป็นคำที่ใช้เรียกต่อท้ายชื่อของเด็กชายในสมัยก่อนนั่นเอง จะว่าไปแล้วโดราเอม่อนเกิดขึ้นโดยความบังเอิญ

ในขณะที่ 2 นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง ฮิโรชิ ฟูจิโมโต และโมโตโอะ อาบิโกะ กำลังจินตนาการสร้างการ์ตูนตัวใหม่ด้วยความยากลำบาก และกดดันเป็นอย่างมาก

เนื่องจากในตอนนั้นเหลือเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงกำหนดส่งต้นฉบับ ทันใดนั้นเขาก็ได้บังเอิญเหลือบไปเห็นตุ๊กตาของลูกสาว ทำให้เขานึกต่อไปถึงตุ๊กตาแมวล้มลุก และกลายเป็นมาเป็นโดราเอม่อนในที่สุด

โดราเอม่อนเป็นแมวหุ่นยนต์ในโลกอนาคต ถูกส่งมาเพื่อคอยช่วยเหลือโนบิตะให้ชีวิตโนบิตะดีขึ้นนั่นเองครับ โดราเอม่อน ทั้งนี้โดราเอม่อนยังมีกระเป๋า 4 มิติ ที่เชื่อมโยงระหว่างโลกปัจจุบันและอนาคตได้ด้วย

แถมในกระเป๋านั้นเต็มไปด้วยของวิเศษมากมายหลายชนิด ซึ่งจริงๆแล้วของวิเศษนั้นเป็นเพียงแค่ของเล่นของเด็กๆ ในโลกอนาคตเท่านั้นเอง ไม่ได้พิเศษอะไรมากมายเรย


แต่อย่างไรก็ดีของเล่นเหล่านั้นในกระเป๋าของโดราเอม่อน ได้ช่วยให้ชีวิตประจำวันของโนบิตะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ในหลายๆด้านเลยครับ

โดราเอม่อนใช้ของวิเศษช่วยให้โนบิตะไม่ต้องถูกเพื่อนรังแก แต่โนบิตะมักจะนำของวิเศษไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องบ่อยๆ จนเกิดเรื่องวุ่นวายโกลาหลเต็มไปหมด

แต่ในทุกๆ ครั้งที่เกิดเรื่อง โดราเอม่อนก็สามารถแก้ปัญหานั้นได้ทุกๆครั้งเลยครับ อย่างไรก็ดีเรามาเอาใจช่วยโดราเอม่อนและโนบิตะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆไปได้ด้วยดีกันนะครับ


การ์ตูนเรื่องโดราเอม่อน มีจุดเด่นในเรื่องของจินตนาการ และสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในโลกอนาคต ที่ผู้อ่านทั่วไปคาดไม่ถึง จากปลายปากกาของ อ. ทั้งสอง ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งยังได้มีการสอดแทรกศิลปะวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นเข้าไปในตัวการ์ตูนให้เราได้ซึมซับ และยังสามรถแบ่งลักษณะนิสัยของแต่ละคนออกมาในแต่คาแร็คเตอร์ของตัวเองได้อย่างลงตัวมาก เหมือนกับนำเอาชีวิตจริงของผู้อ่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับการ์ตูนด้วย

ดังนั้นการ์ตูนเรื่องนี้จึงเป็นที่นิยมมากในหมู่นักอ่านการ์ตูน เพราะสามารถอ่านได้ทุกเพศทุกวัย ได้รับรับความนิยมจากทั่วทุกมุมโลก จนทำให้มีการพิมพ์การ์ตูนเรื่องนี้มากมาย สามารถขายได้ถึง 100 ล้านเล่มในประเทศญี่ปุ่น และยังแปลเป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลก ถึง 9 ภาษาด้วยกัน รวมทั้งภาษาไทยของเราด้วยครับ นอกจากการ์ตูนแล้ว โดราเอม่อนยังถูกสร้างออกมาเป็นภาพยนต์ทางจอเงิน และจอแก้วอีกมากมายหลายตอน โดยจัดฉายครั้งแรกที่ฮ่องกง เมื่อปี พ.ศ. 2524 และฉายที่ประเทศไทยของเราครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2525 นี้ด้วยครับ

By :
Free Blog Templates